มาอ่านเรื่องของเลนส์นอร์มอล ทางยาวโฟกัสราวๆ 100mm ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลนส์คู่หนึ่งที่น่าสนใจของชาว Hasselblad กันครับ

มาอ่านเรื่องของเลนส์นอร์มอล ทางยาวโฟกัสราวๆ 100mm ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลนส์คู่หนึ่งที่น่าสนใจของชาว Hasselblad กันครับ 

เจ้าเลนส์ที่ว่าคือ 2 ตัวนี้  F,FE 110mm F2 lens และ C CT* CFi CF 100mm F3.5 lens ครับ 
(ความจริงเลนส์ 110mm f2  (60mm equivalent to 135mm format) มี 2 รุ่นนะครับ คือ F series กับ FE series 
เลนส์ตระกูล F ออกแบบมาสำหรับกล้องตระกูล 2000 series เป็นกล้องกลไก ไม่มีระบบไฟฟ้า ใช้แบตเตอรี่ในการควบคุมการงานชองชัตเตอร์สปีดเท่านั้น ระบบชัตเตอร์เปิด-ปิดรับแสงออกแบบให้อยู่ที่หน้าระนาบฟิล์ม จึงเป็นที่มาของอักษร F- Focal plane ครับ เช่น 2000fc 2000fcm 2000fcw 2003fcw เป็นต้น และตัวกล้องทำความเร็วสปีดสูงสุดถึง 1/2000s นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ 2000 series อีกเช่นกันครับ 


ส่วนชื่อเลนส์ตระกูล FE เลนส์จะมีขั้วคอนแทคไฟฟ้าเพื่อเชื่อมการทำงานของเลนส์กับกล้องให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพกับระบบการแสดงผลเป็นไฟฟ้า ทั้งแสดงชัตเตอร์สปีดและเอฟสต็อปรวมถึงแสดงค่าผลของแสงอื่นๆ สำหรับกล้องตระกูล 200 series เช่น 202FA 203FE 205Tcc 205Fcc เป็นต้น *** [201F เป็นกล้องลูกครึ่งระหว่างกล้อง 200 และ 2000 ครับ จะว่าเป็นไฟฟ้าก็ไม่เต็มระบบ จะว่าเป็นกล้องกลไกก็มีระบบไฟฟ้าควบคุมการทำงานในบางฟังก์ชั่นในตัวกล้อง)

มาถึงเลนส์สำหรับกล้อง 500 series กันครับ 

เลนส์ Normal คือ 100mm f3.5 (55mm equivalent to 135mm format) มีหลายรุ่นที่ผลิตออกมา ประกอบไปด้วย  Planar C 100mm f3.5, Opton C 100mm f3.5, Planar C 100mm f3.5 T*,  CF  100mm f3.5, CFi 100mm f3.5 ตัวสุดท้าย ก่อนยกเลิกการผลิต 

Hasselblad  ออกแบบเลนส์ 2 ตัวคือ 100mm, 110mm นี้เพิ่อให้คนที่ไม่ต้องการพกเลนส์หลายๆ ตัว เวลาเดินทางไกลๆ พกเลนส์แค่ 1 ตัวก็พอและขอให้เป็นเลนส์ดีที่สุด สามารถถ่ายภาพได้ดีในทุกๆ สภาพแสง และที่สำคัญต้องถ่ายคนไดัดีเป็นพิเศษ และนี่คือที่มาของเลนส์หรือ Prime lens 2 ตัวนี้ครับ 

สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วผมใช้ทั้ง 100มม F3.5 กับ Hasselblad 500 Series  ส่วน 110มม F2 เป็นเลนส์ที่ผมใช้กับกล้อง 200 และ 2000 sereis เช่นเดียวกัน บอกได้ว่าดีทั้งคู่ครับ ยากที่จะชี้ชัดลงไปว่าตัวไหนดีกว่ากัน  เหมือนต้องมาติดสินว่า ระหว่างมือซ้ายกับมือขวา มิอไหนดีที่สุด? 

ผู้อ่านคงพอนึกภาพออกนะครับ มือทั้งสองข้างล้วนมีความสำคัญ ทางที่ดีถ้าไม่มีปัญหาด้านการเงิน ผมแนะนำให้มีทั้งคู่นะครับ 

มาดูคุณลักษณะของเลนส์แต่ละตัวก่อน หากจำเป็นต้องเลือกตัวใดตัวหนึ่งนะครับ 

เลนส์ Normal 100mm f3.5 (55mm equiv. to 35mm ) มีหลายรุ่น เช่น Planar C 100mm f3.5,  Opton C 100mm f3.5,  Planar C 100mm f3.5 T*,  CF 100mm f3.5 T*, CFi 100mm f3.5 T* (ตัวที่นำมาเปรียบเทียบคือ CF 100mm f3.5 T*) 

ตามประสบการณ์ของผมเลนส์ 100 mm เห็นความคมชัดบนภาพหรือไฟล์ภาพได้ดีกว่าเลนส์   110mm เล็กน้อยเมื่อเปิดเอฟสต๊อปกว้างสุด แต่ F4 ไปแล้วระดับความคมชัดใกล้เคียงกัน
ราคามือสองในท้องตลาดถูกกว่าเลนส์ 110 มิลลิเมตรอยู่ครึ่งหนึ่ง และหาซื้อได้ง่ายกว่ามาก
มิติของภาพดีมากเหมาะสำหรับถ่ายภาพคนเป็นส่วนใหญ่
ใช้ได้กับกล้อง 500 series 200 series และ 2000 series เรียกว่าใช้กับกล้องหลากหลายบอดี้กว่า 110mm  

เลนส์ Normal 110mm f2 (60mm equiv. to 35mm ) มี 2 รุ่น คือ  Planar F 110mm T* f2 และ Planar FE 110mm T* f2 

และตามประสบการณ์ของผมเลนส์ 110 mm เมื่อมองผ่าน Acute Matt screem เหมือนกับเลนส์ 100  มองเห็นชัด สบายตาและโฟกัสง่ายมากกว่าเลนส์ 100mm 
ราคามือสองในท้องตลาดสูงกว่าเลนส์ 100mm อยู่เท่าตัว มีจำนวนน้อยและหาซื้อได้ยากมาก
มิติของภาพดีมากเหมาะสำหรับถ่ายภาพคนเหมือนๆ กับเลนส์ 100mm 
Shallow Depth of Field  ตื่นตาตื่นใจกว่าเลนส์ 100mm 
ใช้ได้กับกล้อง 200 series และ 2000 series เลนส์ F FE ใช้กับกล้อง 500 series ไม่ได้  

Unreavel experiences ** (แต่หากพยายามจะใช้เลนส์ตัวนี้ หรือเลนส์ F, FE lens กับกล้อง 500 series ซึ่งไม่มีชัตเตอร์ที่เลนส์ ก็สามารถใช้ได้ เพราะ Lens mount เหมือนกัน ที่ตัวเลนส์สามารถตั้งค่า F-numbers ด้วยการ stop lens diaphrams down ในกรณีที่ต้องการกำหนด f-number เอง แต่ใช้ได้เฉพาะ Mode B หรือ B shutter mode และถ่าย Long exposure with tripod and cable release shutter เท่านั้น)   ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ตัวไหนๆ ก็ตาม Hasselblad ผลิตคิดคันให้พวกเราได้ถ่ายภาพดีๆ ในทุกๆ สภาพแสงและโอกาส ดังนั้นจะดีมากๆ หาเลนส์ระดับ prime lens 2 ตัวนี้จะมีโอกาสได้ทำหน้าที่ของมันบ้างนอกจากการนอนอยู่ในตู้กันความชื้น เพราะคนที่คุณรักเหมาะสมมากๆ ที่จะมีรูปที่ดีที่สุดและถ่ายโดยคุณที่เขารักเช่นกัน