Hasselblad 500vs503 V series ต่างกันอย่างไร?

Hasselblad  500vs503 V series ต่างกันอย่างไร?

        สำหรับผู้เริ่มสนใจเรียนรู้เรื่องกล้องฮัสเซลบลัด..อาจยังงงๆ อยู่บ้าง เพราะ Hasselblad ผลิตออกมามากมายหลายรุ่นมาก ดังนั้นการเริ่มต้นกับกล้องตัวแรกควรจะเริ่มใช้ 500c 500cm ดีหรือใช้ 503cc ดี ? เพราะน่าจะรุ่นใหม่กว่า 500cm น่าจะดีกว่า หรือเล่น 501cm, 503cm รุ่น Flagship เลย?
ผมมักจะได้ยินคำถามเชิงเปรียบเทียบเสมอๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เพราะดูจากภายนอก ทั้งสอง Series แทบไม่ต่างกันเลย  
        ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องรายละเอียดหรือความแตกต่างของตัวกล้อง เรามาทำความเข้าใจเรื่องของปรัชญาและความมุ่งมั่นของ Victor Hasselblad ที่ผลิตกล้องที่ดีที่สุดในโลกก่อนครับ

"A new type of camera, A top-quality, portable camera, A camera that would fit in his hand
[Victor Hasselblad had very small hands]
"กล้องถ่ายภาพแบบใหม่ มีคุณภาพสูงสุด เป็นกล้องที่มีความคล่องตัว และเป็นกล้องที่มีขนาดเล็กที่พอดีกับมือ
( Victor Hasselblad มีมือขนาดเล็กเมื่อเทียบกับมือของฝรั่งทั่วๆ ไป )


ก่อนจะมาเป็น Hasselblad 500 V series
      นิตยสารถ่ายภาพอันโ่ด่งดังของอเมริกาในสมัยนั้น อย่าง The American Magazine of Modern Photography รับหน้าที่ทดสอบ โดยการเดินทางถ่ายภาพทั่วทั้งอเมริกาด้วยฟิล์มกว่า 500 ม้วน พร้อมกับทำตกจากที่สูงแบบไม่ตั้งใจและไม่อยู่ในแผนการทดสอบอีก 2 ครั้ง แม้ตัวกล้องจะได้รับความเสียหายมาก แต่ก็ยังสามารถถ่ายภาพต่อไปจนจบทริปการทดสอบได้อย่างเหลือเชื่อ 
    จากรายงานการทดสอบ ภาพกว่า 6,000 ภาพ มีความคมชัดสูงกว่าในรุ่น 1600F Shadow detail ดีกว่า แสงแฟลล์ลดลง ตัวกล้องมีความทนทานมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม การถอดเปลี่ยนเลนส์หรือฟิล์มแมกกาซีน ทำได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ตัวกล้องกระชับมือ น้ำหนักเบา ทำให้ทำงานได้คล่องตัวกว่ากล้องยี่ห้ออื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
การถือกำเนิดของ Hasselblad 1000F นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการถ่ายภาพ

Hasselblad 500 vs 503 ต่างกันอย่างไร?

HASSELBLAD 500 นับจากนี้ไป
Hasselblad 500C จะเป็นต้นแบบและแยกเป็นรุ่น 501 และ 503 Sereis
ตามตัวอย่างนี้
500C >> 500CM>>501C>>501CM
503CX>>503CXi>>503CW>>503CWD 

** 503 series  ความต่างที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดคือ ระบบ TTL/OTF [ Through The Lens / Off The Film ] ที่ถูกบรรจุไว้ในตัว 503CX 503CXi 503CW แต่ไม่มีใน 500cm 501c และ 501cm
ส่วนประกอบอื่นๆ หรือโครงสร้างอื่นๆ 503 series มีความคล้ายคลึงกับ 500 501c หรือ 501cm เกือบทุกประการ
ระบบ TTL flash ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนักถ่ายภาพ Journalist Photographer และ Wedding Photographer ที่จำเป็นต้องใช้แฟลชภายนอกตัวกล้อง เช่นแฟลชที่มีด้ามจับหรือแฟลชยี่ห้ออื่นๆ เพื่อถ่ายภาพบุคคล หรือบันทึกเหตุการณ์สำคัญๆ กับบรรยากาศ ด้วยการ Fill in flash ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการสร้างสรรค์ภาพถ่าย 

* 503CX มีระบบ TTL/OTF [Through The Lens / Off The Film] มีโครงสร้างเหมือน 500cm ต่อมาพัฒนาเป็นรุ่น 503CXi และ 503CW เพิ่ม Motor winder ขับเคลื่อนฟิล์มอัตโนมัติ หากผู้ใช้ไม่ต้องการขึ้นฟิล์มด้วยมือ สามารถซื้อ Motor Winder เพื่อช่วยในการขึ้นฟิล์มอัตโนมัติได้
และสุดท้ายพัฒนาเป็นรุ่น 503cw โดยมีโครงสร้างเหมือนกับ 501cm ทุกประการ เพียงแต่ 501cm ไม่มีระบบ TTL Flash 

** 500 series 500CM ถูกพัฒนาเป็น 501C และ 501CM ซึ่งเป็นรุ่น top Flagship ของ Hasselblad ที่ไม่มีระบบ TTL flash 
เมื่อกล้องทุ้งสองรุ่นแยกกันผลิตและมีรูปแบบของกล้องที่ชัดเจนสำหรับช่างภาพแต่ละสายงานแล้ว
501CM /503CW มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงกันหลายอย่าง อาทิ เปลี่ยนจากระบบกระจกสะท้อนภาพธรรมดาในรุ่นก่อนหน้านี้ให้เป็น GMS
-[Gliding Mirror Systems] คือเพิ่มความยาวของกระจกสะท้อนภาพ เพื่อลด Vignette [ขอบมืดที่มองเห็นได้จากขอบๆ Focusing screen แต่ไม่มีผลต่อภาพที่ถ่าย]
-ซับแรงกระแทกของกระจกหลังจากดีดขึ้นไปหลังจากกดชัตเตอร์ไปแล้ว - Acute matte focusing screen D type ที่มีความสว่างมาก โฟกัสง่าย เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดมากับตัวกล้อง 

(ลักษณะของ Acute Matt screen D type สังเกตุง่ายๆ จะเห็นว่าขอบของสกรีนมีรอยบาก 2 ตำแหน่ง) ส่วนสกรีน Acute Matt Screen type จะไม่มีรอยบากสองจุดนี้ 
Acute Matt screen ผลิตแยกจำหน่ายเพื่อ upgrade ให้รุ่นที่ผลิตออกมาก่อนหน้านี้ เช่น 500cm 503cx 500ELM 500ELX 553ELX ที่ยังเป็น Bright screen หรือ Standard screen ได้ใช้สกรีนที่สว่างขึ้น
ส่วน Acute Matt Screen D type สกรีนที่มีรอยบาก 2 จุดนี้และเราเห็นแยกขายนั้น อาจเป็นไปได้ว่าอาจถูกถอดสับเปลี่ยน เพื่อนำมาขายแยกต่างหาก เพราะปกติแล้ว Acute Matt Screen D type ผลิตมาเท่าๆ กับจำนวนกล้อง 501cm หรือ 503cw เท่านั้น ไม่ได้ผลิตเกินเพื่อจำหน่ายให้กล้องรุ่นๆ ก่อนๆ อับเกรด 

*** Acute Matt Screen D type และ Acute Matt Screen type มีความสว่างเท่ากันและมีประสิทธิภาพที่ดีไม่ต่างกันครับ จะเลือกเป็นแบบไหนก็ดีทั้งนั้น 

*** Acute Matt Screen type ผลิตออกมาเท่าที่ผมจำได้มี 2 แบบครับ คือ Acute Matt Screen Plain type และ Acute Matt Screen Grid with Split image type

     สำหรับผู้เริ่มต้นกับ Hasselblad และ Medium Format Camera ซึ่งเป็นของใหม่ทั้งหมด..เป็นเรื่องต้องเรียนรู้ใหม่ ตั้งแต่การจับถือกล้อง การใส่ฟิล์ม การวัดแสง การเริ่มจัดองค์ประกอบภาพจากเฟรมสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฯลฯ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นสื่งที่ไม่ได้ยากเกินไปที่จะเรียนรู้..

     และอีกประการหนึ่งครับ กล้องแฮสเลนส์แฮสดีทุกตัว ต่างยุคต่างสมัยกันเท่านั้นเอง แนะนำใ้ห้เลือกใช้ตามสตังค์ในกระเป๋าครับ เพราะถ้าเป็น Hassellad ก็ถือว่าถึงนิพพานเหมือนกัน 

Yut Hasselblad